Last updated: 23 May 2024 | 655 Views |
ในยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไว้ใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้คนบนโลกโซเชียล ใช้ในการส่งข้อมูลสำหรับการทำธุรกิจ รวมถึงการได้เพลิดเพลินกับเหล่าเอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์อย่างสะดวกรวดเร็วและไม่มีสะดุด แม้ในยุคแรกของสายแลนจะมีความเร็วและประสิทธิภาพยังไม่ดีมากนัก แต่ผู้ผลิตเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตก็ไม่เคยหยุดยั้ง ตั้งแต่การใช้สายแลนที่มีความเร็วต่ำ ๆ เพียงไม่กี่บิตต่อวินาที จนกระทั่งสายแลนในปัจจุบันที่สามารถรองรับความเร็วได้ถึงเป็นกิกะบิตต่อวินาที อย่างสายแลน cat6ที่มีความเร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
วิวัฒนาการของสายแลนนั้น เริ่มต้นเมื่อในปี ค.ศ. 1970 โดย Robert Metcalfe และ David Boggs ที่ศูนย์วิจัย Xerox PARC และก่อนที่เราจะไปเจาะลึกเรื่องราวของสายแลนในแต่ละรุ่นตามวิวัฒนาการนั้น เรามาทำความรู้จักกับสาย LAN ว่าคืออะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรกันสักหน่อย…
LAN หรือที่มีชื่อเต็มว่า Local Area Network เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อต่อมอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าใช้งานในคอมพิวเตอร์, สมาร์ตโฟน, เครื่องพิมพ์ หรือโปรเจกเตอร์ ฯลฯ ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น บ้าน, อาคารหรือสำนักงาน เป็นต้น ซึ่งการใช้สายแลนครั้งแรกในระบบอินเตอร์เน็ตของธนาคาร จาก Chase Bank ที่นิวยอร์ก
โดยในระบบของ LAN นั้นมีสายที่เชื่อมต่อไปยังคอมพิวเตอร์, Network Switch, Router และ Modem เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งรูปแบบของสายแลนนั้นจะมีรูปแบบที่ใช้กันหลัก ๆ อยู่ 3 แบบในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และระบบ Network ได้แก่
Copper Twisted Pair
Copper Twisted Pair คือ สายแลนที่เราเรียกกันโดยทั่วไป เป็นสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่าย ซึ่งภายในมีสายทองแดงสองสายที่จัดเรียงและบิดต่อกัน เพื่อลดอิทธิพลของสัญญาณรบกวนจากแหล่งอื่น ๆ และช่วยให้สัญญาณสามารถถ่ายทอดผ่านไปได้โดยมีความเสถียรมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมใช้ในการสร้างสายแลนแบบแถบเล็ก ๆ อย่าง สายแลน cat6 เป็นต้น
Coaxial Cable
Coaxial Cable เป็นสายสัญญาณที่ใช้ในการส่งข้อมูลแบบอนุภาคได้ทั้งสองทิศทาง และมีความสามารถในการถ่ายทอดสัญญาณได้อย่างเสถียร โดยปกติจะประกอบด้วยสายแกนกลางที่เป็นตัวนำ (conductor) ทำมาจากทองแดงห่อหุ้มด้วยฉนวน (insulator) รอบ ๆ ตัวนำ จากนั้นล้อมรอบด้วย shield ที่ช่วยลดการรบกวนจากสัญญาณภายนอกให้ลดลงได้ จึงนิยมใช้สำหรับระบบโทรทัศน์ทางเคเบิ้ล (Cable TV), อินเตอร์เน็ตเคเบิ้ล, ระบบเครือข่าย, ระบบโทรคมนาคม ฯลฯ ที่ต้องการการถ่ายทอดข้อมูลได้อย่างมีเสถียรภาพและมีความเร็วสูง
Fiber Cable
Fiber Cable หรือ Optical Fiber Cable เป็นสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลโดยใช้แสงเป็นตัวถ่ายทอดข้อมูล สายสัญญาณประกอบด้วยสายใยแก้ว (glass fibers) หรือสายใยพลาสติก (plastic fibers) ที่มีความโปร่งแสงสูง และสามารถส่งสัญญาณแสงไปยังระยะทางไกลโดยมีการสูญเสียข้อมูลน้อยมาก
ด้วยเหตุนี้จึงนิยมนำ Fiber Cable มาใช้ในระบบเครือข่ายสื่อสารต่าง ๆ ที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพสูง เช่น ระบบโทรคมนาคม, ระบบอินเตอร์เน็ต, ระบบโทรทัศน์หรือระบบเครือข่ายองค์กร ที่ต้องการการสื่อสารระยะไกลโดยที่ไม่มีการสูญเสียข้อมูล หรือการรบกวนจากแหล่งสัญญาณอื่น ๆ ที่อาจมีอยู่ในสภาพแวดล้อม นั่นเอง
นอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการพัฒนาและปรับปรุงในเทคโนโลยีสายแลนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อรองรับความต้องการของผู้โภคได้รวดเร็วทันใจ รองรับการใช้งานเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบันและในอนาคต ดังนี้
สายแลน cat5 : เป็นรุ่นแรกของสายแลนที่มีความสามารถในการรองรับความเร็วสูงสุดที่ 100 Mbps เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือสำนักงานที่ไม่ต้องการความเร็วสูงมาก
สายแลน cat6 : มีความสามารถในการรองรับความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps และมีการป้องกันการรบกวนจากสัญญาณภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงานที่ต้องการประสิทธิภาพของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงใน Category นี้คือ Cat6a ให้สามารถรับส่งสัญญาณได้ในระยะทางที่ยาวขึ้นกว่า Category 6
สายแลน cat7 : มีความสามารถในการรองรับความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps หรือ 40 Gbps มีความสามารถในการรองรับการรบกวนจากสัญญาณภายนอกอย่างการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากในพื้นที่นั้น
สายแลน cat8 : เป็นรุ่นล่าสุดของสายแลนที่มีความสามารถในการรองรับความเร็วสูงสุดที่ 25 Gbps หรือ 40 Gbps และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการรบกวนจากสัญญาณภายนอกอย่างดีกว่าสายแลน cat7
สายแลนที่เป็น Category 6 หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Cat6 เป็นรุ่นที่พัฒนาจากสายแลน cat5 ที่เป็นรุ่นแรกที่ไม่มีชนวนป้องกันสัญญาณรบกวนภายนอก และรองรับความเร็วได้เพียง 100 Mbps ในขณะที่ Cat6 สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 10 Gbps เพราะมีขนาดของแกนทองแดงที่ใหญ่กว่า กำลังของ Bandwidth ก็สูงกว่า ความเร็วในการส่งสัญญาณก็จะอยู่ที่ระดับ Gigabit
นอกจากนั้น สายแลน cat6 ก็ยังสามารถป้องกันการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับการใช้งานของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ เราจะมีสายแลนรุ่นที่ใหม่กว่า Cat6 อย่าง Cat7และCat8 แต่ใช่ว่าการเลือกสายแลนที่ Category สูงจะดีที่สุด เพราะคุณต้องพิจารณาเรื่องความจำเป็นในการใช้งาน หรือสภาพแวดล้อมของการใช้งาน เช่น ความเร็วที่ต้องการ ระยะทางการส่งข้อมูล และความสามารถในการป้องกันการรบกวน ฯลฯ
หากคุณต้องการสายแลนสำหรับใช้ในบ้านหรือสำนักงานที่มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่มากนัก การเลือกสายแลน cat6 ถือว่าเหมาะสมสำหรับคุณแล้ว เพราะ Cat6 กับ Cat7 หรือ Cat8 ต่างกันเพียงขนาดของการส่งความถี่และประสิทธิภาพในการรองรับการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้มากกว่า แต่ Cat7 หรือ Cat8 ก็มีราคาที่แพงกว่าเช่นกัน นอกจากนี้ข้อดีของสาย LAN แบบ Copper Twisted Pair ก็คือเราสามารถใช้สายแลนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Cat6, Cat7 หรือ Cat8 ต่อเข้ากับ Router รุ่นเก่า ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
เราสามารถเพิ่มความเร็วของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยใช้สายแลน cat6 ได้อย่างไร?
เลือกใช้สายแลนคุณภาพดี
เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นการพิจารณาถึงการรองรับความเร็วสูงสุดถึง 1 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps), รองรับการทำงานแบบ Full-Duplex ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและการส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงวัสดุภายในอย่างทองแดงหรือสายหุ้มที่ทนทานต่อการดึงเหวี่ยง และการใช้งานในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง
ติดตั้งสายแลน cat6 ในบริเวณที่ไม่มีแหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวน
ปัจจัยสำคัญอีกประการที่จะช่วยให้อินเตอร์เน็ตของคุณมีความเร็วสูงนั้น สัญญาณรบกวนจากแหล่งไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการทำงานเป็นจำนวนมาก เป็นส่วนสำคัญที่ไปรบกวนการส่งข้อมูล แม้ว่าสายแลนรุ่น Cat6 จะถูกพัฒนาให้สามารถป้องกันการรบกวนเหล่านี้ได้แล้ว แต่เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ก็ควรติดตั้งและวางสายแลนให้ห่างไกลจากแหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวนของอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง
ปรับปรุงระบบเครือข่ายอื่น ๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของอินเตอร์เน็ต
การปรับปรุงระบบเครือข่าย เช่น การปรับปรุงการกำหนด IP address, DHCP settings, หรือการปรับแต่งกฎการติดต่อ (QoS) เพื่อให้มีการส่งข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ เช่น ตั้งค่าสวิตช์ (switch) ให้ใช้งานในโหมด Full Duplex และตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่ายไวไฟ (Wi-Fi) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเช่นกัน
ความยาวของสายแลน cat6
ควรพิจารณาว่าคุณต้องการสายแลนความยาวเท่าไร เพราะสายแลนที่ยาวจนเกินไปอาจมีการสูญเสียสัญญาณและความเร็ว
ตรวจสอบมาตรฐานสายแลนก่อนซื้อ
โดยปกติแล้วสายแลนจะมีฉลากกำกับเอาไว้ว่าเป็นสายแลนประเภทใด เช่น Cat 5, Cat6, Cat7 หรือ Cat8 ซึ่งแต่ละ Cat มีราคาถูกแพงแตกต่างกันไป ซึ่งตัวเลขยิ่งสูง ความเร็วในการรับส่งข้อมูลและ Bandwidth ของสายก็จะยิ่งมากขึ้น รวมถึงราคาที่สูงมากขึ้นด้วย ฉะนั้นก่อนซื้อนอกจากจะต้องตรวจสอบประเภทของสายแลนว่าตรงตามสเปกที่คุณต้องการหรือไม่แล้ว ยังต้องพิจารณาสายแลนที่มีการรับประกันจะช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ก็จะดีที่สุด
ทั้งหมดนี้คือกลเม็ดเคล็ดลับของการเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตของคุณ ด้วยการใช้สายแลน cat6 ตามที่เราได้กล่าวไป… เท่านี้คุณก็จะได้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไว้ใช้งานที่บ้านหรือสำนักงานของคุณแล้วนั่นเอง
หากคุณสนใจอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อและจัดเก็บสาย ไม่ว่าจะเป็นสายแลนอินเทอร์เน็ตรุ่นต่าง ๆ เช่น สายแลน cat5e, สายแลน cat6, สาย lan cat7 อุปกรณ์และสายไฟเบอร์ออฟติกอย่าง fiber optic splitter สินค้าท่อร้อยสายหลากหลายชนิด ทั้ง duct rodder, maxcell, opticell หรือหัวต่อทองแดง ไปจนถึงตู้ odf และ pull box กัลวาไนซ์ สำหรับเก็บสายไฟ
On-Tech Engineering & Trading Co., Ltd เรายินดีให้คำแนะนำทางเทคนิคต่าง ๆ อย่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมจำหน่ายสินค้าสายแลนราคาดี คุณภาพสูง สามารถจัดส่งให้คุณได้ในทันที
สนใจสั่งซื้อสายแลน cat6 คุณภาพดี สอบถามราคาสายแลนเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-279-7337, 02-279-7361 | อีเมล : ontech.mail2557@gmail.com, info@ontech.co.th