Last updated: 26 ส.ค. 2567 | 574 จำนวนผู้เข้าชม |
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญ ที่ขาดไม่ได้เลยในการดำเนินชีวิตประจำวันและธุรกิจต่าง ๆ สำหรับใครหลายคนอาจจะมีความคุ้นเคยกับนวัตกรรมที่เรียกว่าสายแลน (Local Area Network) มาไม่มากก็น้อย แต่รู้หรือไม่ว่าสายแลน cat5e, cat6 และอีกมากมายอย่างที่เราใช้กันในทุกวันนี้ ก่อนที่เราจะสามารถใช้งานได้นั้นจำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “การเข้าหัวสายแลน” เสียก่อน ซึ่งทำให้เราอยากจะเชิญชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับความสำคัญของการเข้าหัวสายแลนให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบมั่นใจ และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
การเข้าหัวสายแลน (LAN Cable Termination) คือกระบวนการต่อสายสัญญาณเน็ตเวิร์กเข้ากับหัวเชื่อมต่อ (Terminate Connector) ซึ่งสายแลนแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีการใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นหัวประเภท RJ45 ซึ่งจะใช้กับสายแลนประเภทสายแลน cat5e, cat6 เป็นต้น
แต่เดิมแล้วสายแลนที่ไม่ได้ผ่านการเข้าหัวสายแลนนั้นจะเป็นเพียงสายนำสัญญาณธรรมดาที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้การเข้าหัวสายแลนนี้เปรียบเสมือนการสร้างตัวเชื่อมต่อให้กับสายแลน สำหรับความพร้อมในการนำไปใช้งานในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง
สำหรับการเข้าหัวสายแลนนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการใช้งานกับระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานอยู่ หากการเข้าหัวสายแลนนั้นทำไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น การส่งสัญญาณข้อมูลที่มีความล่าช้า การเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร หรืออาจจะไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้เลย
การเข้าหัวสายสัญญาณที่ถูกต้องจะช่วยลดการสูญเสียสัญญาณที่เกิดขึ้น อันเป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยครั้งในการติดตั้งระบบเครือข่าย โดยการสูญเสียสัญญาณนี้อาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยอย่างเช่น การตัดสายแลนที่ไม่ถูกต้อง การจัดเรียงสายแลนที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน หรือแม้กระทั่งการเข้าหัวสายแลนที่ไม่แน่นเพียงพอก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้การเข้าหัวสายแลนไม่ได้มีความสำคัญเป็นเพียงแค่การสร้างตัวเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายเพียงเท่านั้น แต่การเข้าหัวสายแลนที่มีคุณภาพนั้นจะช่วยดึงคุณสมบัติการทำงานสายแลน cat5e, cat6 หรือสายแลนอื่น ๆ ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
ในการเข้าหัวสายแลนนั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นคีมตัดหรือกรรไกร, คีมเข้าหัวแลน, หัวแลน, Boot, คัตเตอร์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสายแลนนั่นเอง โดยจะขอยกตัวอย่างเป็นสายแลน cat5e (Category 5 cable) ซึ่งเป็นสายที่ถูกผลิตขึ้นมาตามมาตรฐานของ Fast Ethernet (100 Mbit/sec) รองรับการส่งข้อมูลที่ความเร็วสูงถึง 1,000 Mbps หรือ 1 Gbps
อีกทั้งสายแลน cat5e นี้ยังมีคุณสมบัติในการลดสัญญาณการรบกวน (Crosstalk) และลดการสูญเสียสัญญาณ (Signal Loss) ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายของเรามีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูง โดยขั้นตอนวิธีการเข้าหัวสายแลน cat5e นี้จะประกอบไปด้วย
นอกจากตัวอย่างขั้นตอนวิธีการเข้าหัวสายแลน cat5e ที่เราได้ทราบกันไปแล้ว เรายังสามารถใช้งานสายแลน cat5e ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก ซึ่งสามารถทำได้ด้วยเคล็ดลับดังนี้
เราจะเห็นได้ว่าการเข้าหัวสายแลนนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ในการสร้างระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การเข้าหัวสายอย่างถูกต้องจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของเรานั้นมีความเสถียร รวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้จากตัวอย่างสายแลน cat5e ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้ เหมาะกับการใช้งานในบ้าน สำนักงาน และอีกมากมายเลยทีเดียว
ทั้งนี้แนะนำว่าหากท่านต้องการใช้งานสายแลน cat5e, cat6 หรือสายแลนประเภทอื่น ๆ เราควรเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการคุณภาพโดยตรง เพื่อที่จะมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าการเข้าหัวสายแลนของเรานั้นจะสามารถใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ เชื่อมต่อสัญญาณได้อย่างแม่นยำ เสถียร และไร้ปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลังนั่นเอง
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการสายแลนคุณภาพ พลาดไม่ได้เลยกับผู้ให้บริการอย่าง Ontech เพราะเราคือผู้จัดจำหน่ายสายไฟเบอร์ออฟติก สายแลนคุณภาพสูง หัวต่อทองแดง และยังรวมไปถึงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ อีกมากมาย ที่จำเป็นต่อการเชื่อมต่อระบบ มั่นใจได้ถึงมาตรฐานการใช้งานเพราะสินค้าทุกชิ้นของเราล้วนผ่านการตรวจสอบแล้วว่าได้มาตรฐานที่กำหนด อายุการใช้งานยาวนาน
นอกจากนี้ Ontech ยังมีทีมงานมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านสายแลนโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสายแลน cat5e, cat6 ฯลฯ สามารถให้คำแนะนำกับผู้ที่สนใจได้อย่างตรงจุด ใช้งานและเชื่อมต่อไม่มีสะดุดด้วยสายแลน สายไฟเบอร์ออฟติก และอุปกรณ์ไฟเบอร์ออฟติกคุณภาพจากเรา
สนใจสั่งซื้อสายแลน cat5e คุณภาพดี สอบถามราคาสายแลนเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-279-7337, 02-279-7361 | อีเมล : ontech.mail2557@gmail.com, info@ontech.co.th